วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลางใจเมือง

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมืองกรุงเทพฯกัน สิ่งที่ว่านี้ก็คือ ท้าวมหาพรหม แยกโรงแรมเอราวัณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หลายๆคนมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต บ้างก็มาแก้บน บ้างก็แวะมาเที่ยวปกติ 

ท้าวมหาพรหม
พระพรหม เป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ ทรงมีอานุภาพในการลิขิตชะตาชีวิต โดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม พระพรหมจึงเป็นผู้คุ้มครองคนดี และลงโทษผู้กระทำบาป ผู้มีกิเลสตัณหา จะถูกพระพรหมลิขิตให้ชีวิตมีแต่ความลำบากยากเข็ญ ผู้มีจิตใจเอื้ออารีย์ต่อผู้อื่น พระพรหมจะบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต การเสียสละต่อส่วนรวมคือการถวายความจงรักภักดีต่อพระพรหม พระพรหมจะบันดาลพรให้ผู้เสียสละนั้นมีแต่ความสุขตลอดกาล

 ขาวไทยและชาวต่างชาติมาสักการะกันอย่างล้นหลาม
เพียบ
พระตรีมูรติเทพ
บทความนี้ผมคัดลอกจากอินเตอร์เน็ตมานะครับ หากผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วย โดยมีรายละเอี่ยดดังนี้

พระตรีมูรติ ที่อยู่หน้า Central World (เวิลด์เทรด) นั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่พระตรีมูรติ ครับ
แต่เป็น พระปัญจมุขี (พระศิวะ 5 เศียร)

ผู้สร้าง ผู้บวงสรวง และผู้จัดตั้งนั้นเข้าใจผิด จัดสร้างอย่างผิด
เพราะไม่มีพระตรีมูรติในตำราหรือคำภีร์ไหนที่มี 5 เศียรเลย
พระตรีมูรติที่ถูกต้องจะต้องมี 3 เศียรเท่านั้น จึงขอให้ผู้ศรัทธาเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วย
คณะพราหมณ์ นักบวชและบัณฑิตชาวอินเดีย นักโบราณศาสตร์ ผู้รู้จริงในเรื่องตำนานเทวปกรณ์จำนวนมากมายได้ยืนยันเช่นเดียวกัน
การไหว้สักการะเทวรูป พระศิวะ 5 เศียร แต่ดันไปขอพรหรือระลึกถึง พระตรีมูรติ นั้น ทำให้การขอพรไม่ได้ผลเต็มที่ตามคาดหวัง
วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องคือ ให้ไหว้เทวรูปหน้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้นๆแล้วสวดมนต์ขอพรถึง พระศิวะมหาเทพ จะถูกต้องที่สุด

สิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกท่านที่ใกล้ๆกันคือพระพิฆเนศ



หากใครยังไม่เคยไปสักการะก็หาเวลาไปสักการะกันบ้างนะครับขอให้ทุกๆคนมีความสุขกาย สบายใจกันนะครับ :-)
 
Alex Prangpratanporn 



วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เทศกาลกินเจ

ขอต้อนรับสู่เทศกาลกินเจ


ส่งผลไม้อบแห้งแล้ว ช่วงนี้ก็อินเทรนกะเขาบ้าง โดยหันมากินเจกันเถอะครับ โดยความเข้าใจที่ผิดจากอดีต เมื่อมารู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้ก็ทำให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้วกินเจอย่างเดียวก้มีประโยชน์มากกว่ากินเนื้อสัตว์อีกครับ
เริ่มกันเลยนะครับ การกินเจเริ่มตั้งแต่ 15 ตุลาคม ถึง 23 ตุลาคม 2555 วันนี้ผมจะเอาความหมายและการปฏิบัติตน รวมถึงข้อห้ามต่างๆสำหรับเทศกาลกินเจมาเล่าสู่กันฟังครับ โดยเนื้อหานี้ผมได้อ่านเจอและคัดลอกจากอินเตอร์เน็ตและผสมคำพูดและความรู้สึกของผมลงไปด้วยโดยเรื่องมีอยู่ว่า

ความหมายของการกินเจ  หมายถึงการรักษาศีล ปฏิบัติธรรมทั้งกาย วาจา และใจ ไม่ใช่หมายความเพียงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์เท่านั้น การปฏิบัติธรรมร่วมไปด้วยจึงจะครบเป็น 'การถือศีล-กินเจ' อย่างแท้จริง

การปฏิบัติตัวในช่วงเทศกาลกินเจ
เมื่อส่งผลไม้อบแห้งแล้วก็ได้เวลาตั้งมั่นที่จะปฏิบัติศีลและกินเจ ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืนนี้แล้ว ก็ควรจะศึกษาข้อห้ามต่างๆ ที่บัญญัติไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตัว โดยทั่วไปแล้วจะมีข้อปฏิบัติดังนี้

  • งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายต่อสัตว์(ข้อนี้ทุกๆคนต้องทำให้ได้นะครับ โลกจะได้สงบสุข)

  • งด นม เนย หรือน้ำมันที่มาจากสัตว์(งดๆๆๆให้ได้)

  • งดอาหารรสจัด หมายถึง อาหารรสเผ็ดมาก เค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมา(งดๆให้ได้)

  • งดผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ รวมทั้งเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุน(งดให้ได้)

  • รักษาศีล 5(ชาวพุทธที่ดีควรรักษาข้อนี้ให้ดีๆครับ)

  • รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์ให้คงที่(ข้อนี้ยากสุดๆแต่ผมจะพยายามครับ)

  • ทำบุญ ทำทาน บางคนที่เคร่งอาจนุ่งขาว ห่มขาว(สีขาวช่วยทำให้จิตใจบริสุทธิ์สะอาดได้นะครับ)

สำหรับคนที่กินเจอย่างเคร่งครัด นอกจากจะ 'ถือศีล-กินเจ' แล้วยังต้องเลือกผู้ปรุงอาหารเจที่กินเจด้วย เพื่อให้ 'อาหารเจ' นั้นบริสุทธิ์จริงๆ บางคนจะมีการคัดแยกภาชนะที่บรรจุอาหารหรือใช้ปรุงอาหาร แยกจากที่ใช้ใส่อาหารที่มีเนื้อสัตว์อย่างเด็ดขาด และในบางแห่งอาจพบว่ามีการจุดตะเกียงเก้าดวง ไว้เป็นเวลา 9 วันตลอดระยะเวลาการกินเจ เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุญคุณพ่อแม่ญาติพี่น้อง และเพื่อเป็นพุทธบูชา

อาหารเจ(อ่านตรงนี้นะครับ)

ปัจจุบันมีการยอมรับกันโดยทั่วไปถึงคุณค่าของ 'อาหารเจ' เนื่องจากการรับประทานพืชผักในปริมาณที่มากกว่าปกติ งดเว้นเนื้อสัตว์ ทำให้กระเพาะได้พักจากภารกิจการย่อยเนื้อสัตว์ที่ทำประจำอยู่ และได้รับวิตามินเข้าไปเสริมสร้าง ซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ รวมทั้งได้โปรตีนจากถั่วชนิดต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากโปรตีนที่เราได้รับจากเนื้อสัตว์ ช่วงเวลานี้จึงถือเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนจากการรับสารอาหารย่อยยากจาก แหล่งอาหารต่างๆ รวมทั้งยังได้รับพลังใจจากการที่ปฏิบัติตัวอยู่ในศีล ทำให้จิตใจอิ่มเอิบ เบาสบาย

หลายคนคิดว่า การรับประทานแต่อาหารเจจะทำให้เกิดโรคขาดอาหาร ทั้งที่สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคขาดอาหารนั้น มาจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลัก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ที่กินเนื้อสัตว์และกินเจ ซึ่งมีนิสัยการบริโภคที่ไม่คำนึงถึงคุณค่าของสารอาหารที่ได้รับ

คนที่กินเจอย่างถูกหลักก็จะได้รับอาหารที่มีคุณค่า มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ การประกอบอาหารเจเพื่อรับประทานในช่วงนี้ จึงสามารถเลือกอาหารพวก ข้าวกล้อง (ใช้แทนข้าวขาว) โปรตีนเกษตร (แทนเนื้อสัตว์) ผักสด เห็ดหอม ถั่วนานาพันธุ์ เต้าหู้ แป้งหมี่กึง ทดแทน และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำเป็นอาหารชนิดต่างๆ

คราวนี้มาดูคุณค่าของการกินอาหารเจกันบ้างนะครับ

ประโยชน์ของการกินเจในมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบันและแผนโบราณ


  • ให้พลังเย็น โดยได้รับพลังงานจากฟรุกโตส ซึ่งมีในผักและผลไม้ เป็นพลังงานที่ไม่ทำร้ายร่างกาย

  • ช่วย ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้าง เพราะกากใยในพืชผักช่วยระบบการย่อยและระบบขับถ่าย ทำให้ไม่เป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ รวมถึงโรคที่เกิดจากระบบขับถ่ายผิดปกติต่างๆ เช่น โรคริดสีดวงทวาร

  • หากรับ ประทานเป็นประจำ จะช่วยฟอกโลหิตในร่างกายให้สะอาด เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะเสื่อมช้าลง ทำให้ผิวพรรณผ่องใส มีอายุยืนยาว สายตาดี แววตาสดใส ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานโรค มีความคล่องตัว รู้สึกเบาสบายไม่อึดอัด

  • ทำ ให้ปราศจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน โรคตับ โรคสำไส้ โรคเกาต์ ฯลฯ เพราะได้รับอาหารธรรมชาติที่มีประโยชน์ ซึ่งไม่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ และยังช่วยป้องกันโรคร้ายเหล่านี้

  • อวัยวะหลักของร่างกาย และอวัยวะเสริมทั้ง ๕ ทำงานได้อย่างเต็มสมรรถภาพ อวัยวะหลัก ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด
    อวัยวะเสริมทั้ง ๕ ได้แก่ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะ ปัสสาวะ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี 

  • ผู้ที่กินเจ จะมีร่างกายที่สามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้สูงกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่

    ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีที่เป็นอันตราย อื่นๆ

    อวัยวะหลัก ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด

    มลภาวะที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ทั้งจากรถยนต์และโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ ซึ่งมีปะปนอยู่ในอากาศรวมถึงแหล่าอาหารและน้ำดื่ม 
         กัมมันตภาพรังสี จากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ และ การทำสงคราม สารอาหารจากพืชพัก
         ช่วยให้เซลล์ในร่างกายทนต่อการทำลายจากกัมมันตภาพรังสีได้ 

 มาดูคุณค่าทางศาสนากันบ้างนะครับ

อานิสงส์ 10 ข้อ ของการไม่กินเนื้อสัตว์ (กินเจ)

              อานิสงส์ขั้นต้นของการไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ฆ่าสัตว์และไม่เบียดเบียนสัตว์ คือ จะทำให้ชีวิตของเราไม่ต้องตายด้วย ปืนผาหน้าไม้ คมหอกคมดาบ ไม่่ตายด้วยเหตุกาณ์อันน่าสยดสยองหรือภัยพิบัติต่างๆ ทั้งยังสามารถตัดกรรมในเรื่องการฆ่าและยุติการจองเวรกับสรรพสัตว์ทั้งหลาย อีกด้วย องค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระผู้เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาอันมิ อาจประมาณได้ทรงรักใคร่สรรพสัตว์ทั้งหลายประดุจลูกในอุทรของพระองค์เองเมื่อ ได้บรรลุอนุตตรสัมโพธิญาณสูงสุดแล้ว ก็ยังทรงมีพระทัยห่วงใยปรารถนาให้เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ได้หลุดพ้นออกจากบ่วงกรรมและระงับดับการจองเวรซึ่งกันและกัน ในบรรดา บาปกรรมทั้งหลายที่คนหลงผิดกระทำไปการเบียดเบียนฆ่าทำลายชีวิตผู้อื่นถือ เป็นบาปกรรมที่ร้ายแรงที่สุดแม้ว่าจะกระทำลงไปโดยไม่เจตนา ก็ยังต้องไปรับโทษ นับประสาอะไรกับการจงใจเจตนาฆ่าเขาให้ตาย โทษทัณฑ์์นั้นจะ ยิ่งใหญ่ หลวงและ ไม่อาจให้อภัยได้ด้วยเหตุที่พระพุทธองค์ทรงมี พระประสงค์ ์ให้เราทุกคนละเว้นจาก การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และเลิกเบียดเบียนผู้อื่นโดยเด็ดขาด พระองค์จึงทรงบัญญัติ ศีลข้อ “ปาณาติบาต” คือห้ามการฆ่า เป็นข้อที่สำคัญอันดับหนึ่ง ขอให้เราจง มาร่วมกันศึกษาพิจารณาพระพุทธวจนะว่าด้วยเรื่อง “อานิสงส์ 10 ข้อของการ ไม่กินเนื้อสัตว์” เพื่อจักได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติและบำเพ็ญธรรม ให้สูงขึ้นไป ในพระสูตรของพระพุทธศาสนามหายานเล่าว่า

“สมัยหนึ่ง... องค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จไปเทศนาโปรดบรรดาเหล่าพญานาคทั้งหลาย พระพุทธองค์ ์ได้ทรงตรัสธรรมกถาวิสัชนาแสดงแก่พญานาคราชความว่า “บุคคลใด หยุดการฆ่าสัตว์

ตัดชีวิต และงดเว้นเสียจากการเสพเลือดเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังชี้นำส่งเสริมให้หมู่ชนทั้งหลายหยุดฆ่า หยุดเสพชีวิตเลือดเนื้อผู้อื่น บุคคลผู้นั้นย่อมห่างไกลจากอกุศลมูล ทั้งปวง และบริบูรณ์พร้อมด้วยอานิสงส์ ทั้ง 10 ประการอันได้แก่

       1. เป็นที่รักใคร่ของบรรดาเทพ พรมตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย

       2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น

       3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้

       4. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย

       5. มีอายุมั่นขวัญยืน

       6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด

       7. ยามหลับนิมิตรเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นศิริมงคล

       8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
       9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ

       10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตญาณจะมู่งสู่คติภพ
 
   
ที่มา elib-online.com  

เป็นไงกันบ้างครับ เพื่อนๆเห็นคุณค่าและประโยขน์ของการกินเจกันหรือยังการกินเจนั้นไม่ได้ทำให้เราขาดสารอาหารหรอกนะครับ แถมยังทำให้ร่างกายมีแต่ของที่มีประโยขน์ เหมาะกับยุคสมัยที่สิ่งรอบๆตัวเราเต็มไปด้วยมลพิษ ดังนั้นเราหันมากินเจกันเถอะครับ วันนี้ผมทำแล้ววันแรกรู้สึกสบายใจมากครับ ปีนี้ตั้งใจจะทำให้เต็มที่อีกสักปีละกัน(สามปีก่อนเคยเคร่งมาแล้วนะคร้าาาบบบ)

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รับน้องใหม่ พระจอมเกล้า ธนบุรี ปี 55


Welcome my all friends.
This party start on 2 December 2012 at
King Mongkut's University of Technology Thonburi.

สวัสดีครับผมหายไปสักระยะหนึ่งเพราะกำลังยุ่งๆอยู่กับการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งของตัวเอง เช่นหน้าที่การงาน การเีรียน การเดินทาง ความเป็นอยู่ส่วนตัว ... คราวนี้พอจะเคลียร์ลงตัวแระ ก็เลยมีเวลาว่างมาเขียนบล็อคให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ 
สำหรับฉบับนี้เป็นเรื่องการรับน้องใหม่ปี 2555 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ครับ ซึ่งผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมก็ได้เก็บความประทับใจเล็กๆน้อยๆ ในงานมาให้เพื่อนๆชมกัน เชิญชมได้ ณ บัดนี้ครับ

เพื่อนฝั่งซ้าย
เพื่อนๆฝั่งขวา
 พี่แบงค์หัวหน้ากลุ่มผมเองครับ
 เพื่อนๆหล่อๆสวยๆทุกคน
 สู้ตายครับ

วันนี้เราจะคัดเลือกประธานรุ่น และ คณะทำงานกันครับ ผู้ได้รับคือ...

Candidate ทั้งหมดครับ
เป็นไงบ้างประธานรุ่นผม มาดผู้ใหญ่บ้าน(พี่โอ็ค)
และก็มาถึงการคัุดเลือกคนหล่อ สวยประจำรุ่นได้แ่ก่...
ยกมือทำไมครับ
ลุ้นๆๆ
หนุ่มหล่อสาวสวยประจำปีนี้ก็คือ....
 
 คู่นี้ครับได้รับรางวัลหนุ่มหล่อ สาวสวยประจำปีนี้ 
ทั้งคู่รับรางวัลเกียรติยศ และสายสะพาย เก็บไว้อวดปีหน้าด้วย
กระชับรูปกันหน่อยใครดูดีกว่ากันนนน

 กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทำให้พวกผมได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่ต่างรุ่นทั้งหมด ก็ทำให้ผมประทับใจและอบอุ่นกับการ่วมงานครั้งนี้ ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนไม่ชอบงานสังสรรค์แบบนี้เท่าไร แต่งานนี้ทำได้ดีครับ ทำให้ผมรู้สึกอยากเข้าร่วมไม่งั้นผมคงเดินออกหลังเริ่มงานได้ 15 นาที 

มาดูหน้าตาเพื่อนๆผมกันอีกสักชอต
พี่ใหญ่(อายุ)
เพื่อนกลุ่มผมครับ
สู้ๆ(ลิโพ)
 สัมภาสน์คณะทำงานรุ่น
รุ่นพี่ปีที่แล้วกำลังบ่นให้น้องๆฟัง
จะหลับแล้ว
 สัมภาสษ์นางงาม
ฮาา
หนุ่มหล่อสาวสวยปีที่แล้วเป็นไงบ้างครับ (สุดๆ)
 ใครแน่กว่ากัน
 แอบเล่นเกมส์คลายเคลียด
ดูซิรางวัลเป็นอะไรหว่า
ตั้งใจฟังน่าดู
เอาหล่ะประธานในพิธีจะกล่าวปิดงาน
แชะๆๆ
อย่าเิอนครับแฟน(คนขวา)เค้าหึง 
ฮาา

ลากันที่ภาพหนุ่มหล่อสาวสวยอีกครั้งนะครับ 

หวังว่ากิจกรรมเล้กๆน้อยน่าจะทำให้บรรยากาศการเรียนเป็นไปได้อย่า่งสนุกสนานตลอดสองปี หากมีเหตุการณ์ไหนๆที่ผมพอจะเก็บภาพมาได้ จะนำมาลงให้เพื่อนได้ดูกันอีกนะครับ ฉบับนี้ผมต้องลาไปก่อนพบกันใหม่ฉบับหน้าครับ

Alex Prangpratanporn